การแบ่งเกรดผ้า Cotton
ทำไมเราซื้อเสื้อยืดมาเหมือนกัน แต่ความรู้สึกเวลาที่เราจับผ้าไม่เหมือนกัน คำตอบก็คือ ผ้า Cotton 100% ของเสื้อยืดที่เราซื้อมานั่น แบ่งคุณภาพออกเป็นหลายแบบ โดยดูที่ความบริสุทธิ์ของเส้นใยฝ้าย ความหนา และ การเรียงตัวของเส้นใยฝ้าย
โดยคุณภาพของ Cotton 100% ในท้องตลาดไดแบ่งออก ดังนี้
- แบ่งตามชนิดของเบอร์ผ้า หลักๆที่โรงงานแบ่งจะมี 3 ประเภท คือ เบอร์ 20 , เบอร์ 32 และ เบอร์ 40 โดยผ้าเบอร์ 40 จะเป็นผ้าที่มีคุณภาพดีที่สุด
- แบ่งตามกระบวนการผลิต แบ่งเป็น
- Cotton OE โออี
- Cotton Semi เซมิ
- Cotton Combed คอมบ์
การแบ่งเกรดผ้า ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่ตลาดทั่วไปมักใช้ คือ
- ผ้า Cotton 100%
- ผ้า Cotton ผสม Polyesters
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของเนื้อผ้าทั้ง 2 ชนิด
ชนิดของผ้า
|
คุณสมบัติของเนื้อผ้า
|
Cotton 100%
|
เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงไม่ระคายเคือง
ติดไฟตามคุณสมบัติของcotton ไม่ลามขี้เถ้าจะไม่เกาะตัวกันเป็นก้อน
ไม่สามารถใช้เทคนิคแบบรีดซึมได้
เนื้อผ้ามีความคงตัวสูง ( ยับง่ายกว่าใยสังเคราะห์)
เนื้อผ้ามีการหดตัว มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคการทอ การทอที่ดีต้องควบคุมให้การหดตัวของผ้าอยู่ในระดับต่ำ และความคุมได้อย่างสม่ำเสมอ
ถ่ายเทอากาศได้ดีเมื่อเทียบกับชนิดที่ผสมใยสังเคราะห์
|
Cotton ผสมPolyesters
|
มีส่วนผสมจากสิ่งสังเคราะห์ ไม่เหมาะกับบางงานที่ต้องการความปลอดภัย
ติดไฟง่าย และไหม้ไฟตามคุณสมบัติของ polyesters
สามารถใช้เทคนิคการพิมพ์ภาพแบบรีดซีมได้
เนื้อผ้าที่ผสมใยสังเคราะห์ จะคืนตัวไว ( ไม่ยับง่าย )
การหดตัวต่ำกว่าชนิด COTTON100% เนื่องจากโครงสร้างของใยผ้า ถูกตรึงไว้ด้วย polyesters ทำให้การหดตัวไม่มาก
การถ่ายเทอากาศไม่ดี
|
เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้า Cotton 100 % แบ่งเกรดอย่างไร
ผ้าฝ้าย หรือ cotton 100% ที่นำมาผลิตเสื้อยืดสามารถแบ่งตามเบอร์เส้นด้าย โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20,32,40 ตามลำดับ สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไปจะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้นโดยเฉพาะตามเบอร์ที่ต้องการ เนื่องจากกระบวนการในการผลิต(ปั่นเส้นด้าย)ให้เส้นด้ายมีขนาดเล็กต้องอาศัย เครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนที่สูงในการผลิต เมื่อนำมาผลิตเสื้อยืดก็จะมีต้นทุนสูงตามไปด้วย ถ้าเบอร์น้อยจะใช้ด้ายเส้นใหญ่ เบอร์ มากใช้ด้ายเส้นเล็ก เช่นผ้า Cotton 100 % เบอร์ 20 เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าเบอร์ 32 เนื่องจากขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า โดยทั่วไปผ้า Cotton ที่นิยมนำมาใช้ทำเสื้อยืดและเสื้อโปโล ในราคาระดับปานกลางถึงสูงคือผ้า Cotton 100% เบอร์ 20 (เสื้อยืดสำหรับผู้ชาย) และ 32(เสื้อยืดสำหรับผู้หญิง) ส่วนเบอร์ 40 มักจะนำมาทำเสื้อสำหรับเด็กอ่อน หรือเสื้อที่เน้นความบางเป็นพิเศษ และเสื้อยืดแบรนเนมส์บางรุ่นเบอร์ที่สูงกว่า 40 จะเป็นเสื้อยืดที่ต้องสั่งทอผ้าขึ้นเป็นพิเศษ
กระบวนการผลิตเส้นด้าย เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อผ้า เพื่อให้ได้เส้นใยที่มีคุณภาพทั้งในด้านการเรียงตัวของด้ายที่มีความหนาแน่น สม่ำเสมอและกำจัดสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากเส้นใยเพื่อให้ได้เส้นด้ายที่มี คุณสมบัติที่ดีเมื่อไปทอเป็นผ้าผืน ทำให้สามารถแบ่งเกรดผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการผลิตได้ 3 เกรดคือ
Cotton OE ไม่ผ่านกระบวนการคัีดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย เสื้อยืดที่ผลิตจาก cotton ชนิดนี้จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำขาดง่าย เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด เนื่องจากต้นทุนในการใช้เครื่องจักรและกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้ายเป็น เส้นด้ายต่ำสุด
Cotton Semi ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักรทำให้ได้ผลผลิต เป็น เส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 - 32) และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง (ร้าน42 ส่วนมากใช้ผ้าชนิดนี้ค่ะ)
Cotton Comp ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสาง ทำให้ได้ผลผลิตเป็น เส้นด้ายที่มีขนาดเล็ก (เบอร์ 32 ขึ้นไป) และสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้า cotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และ่กระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน
Cotton OE ไม่ผ่านกระบวนการคัีดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย เสื้อยืดที่ผลิตจาก cotton ชนิดนี้จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำขาดง่าย เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด เนื่องจากต้นทุนในการใช้เครื่องจักรและกระบวนการในการผลิตจากเส้นใยฝ้ายเป็น เส้นด้ายต่ำสุด
Cotton Semi ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักรทำให้ได้ผลผลิต เป็น เส้นด้ายใยสั้น ที่มีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 - 32) และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง (ร้าน42 ส่วนมากใช้ผ้าชนิดนี้ค่ะ)
Cotton Comp ผ่านกระบวนผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสาง ทำให้ได้ผลผลิตเป็น เส้นด้ายที่มีขนาดเล็ก (เบอร์ 32 ขึ้นไป) และสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่า รวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้า cotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และ่กระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน
เนื้อผ้าที่ใช้ผลิตเสื้อยืด
เนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้นมีหลายเกรดหลายราคา รวมถึงคุณสมบัติของเนื้อผ้าก็แตกต่างกัน ก่อนจะซื้อเสื้อยืดหรือสั่งสกรีนเสื้อนอกจากเรื่อง ลายสกรีนเก๋ ๆ โดน ๆ แล้ว เนื้อผ้าน่าจะสำคัญไม่แพ้กัน โดยเนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้นแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 เนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ หรือ ผ้าฝ้าย โดยการนำปุยฝ้ายเส้นเล็ก ๆ มาปั่นให้เป็นเส้นด้ายแล้วนำมาทอเป็นผ้าผืน ถ้าใครเคยสังเกตบนป้ายยี่ห้อตรงคอเสื้อยืดหรือที่เย็บตรงตะเข็บข้างเอวก็จะ เห็นคำว่า Cotton 100% นั่นคือทำมาจากผ้าฝ้าย 100 % นั่นเอง และเชื่อว่าแทบทุกคนคงเคยใส่เสื้อยืดที่ทำจากผ้า Cotton 100 % ซึ่งเนื้อผ้าประเภทนี้จะให้ความรู้สึกในการสวมใส่สบาย เนื้อผ้านุ่มเนียน ระบายอากาศดี(เนื่องจากเส้นใยมีรูพรุน)ไม่อมเหงื่อแม้อยู่กลางแจ้งในวันที่ แดดเปรี้ยง ๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นผ้า Cotton 100 % เกรดดี ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดีของเนื้อผ้าชนิดนี้ โดยราคาจะแปรตาม เกรดของเนื้อผ้าส่วนข้อเสีย เวลารีดต้องออกแรงปล้ำกับรอยยับมากกว่าผ้าชนิดอื่นรวมถึงเมื่อซักไปนาน ๆ ผ้าจะเริ่มยืดและย้วยง่ายกว่าผ้าชนิดอื่น
ประเภทที่ 2 เป็นเนื้อผ้าผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ (ตัวย่อว่า TC ,CVC, CTC ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์การผสมของเส้นด้าย) เนื่องจากกระบวนการผลิตผ้าใยสังเคราะห์นั้นเป็นผลพลอยได้มาจากการกลั่น น้ำมันในอุตสหกรรมปิโตเครมี ซึ่งสามารถควบคุมขั้นตอนการผลิตในเชิงปริมาณได้ ต่างกับผ้าเส้นใยธรรมชาติที่ต้องพีึ่งผลผลิตจากการปลูกฝ้าย และดินน้ำลมฟ้าอากาศ รวมถึงแมลงที่เป็นศัตรูตัวฉกาจในการทำลายผลผลิต รวมถึงในเรื่องการขนส่ง และกระบวนการในการผลิตเส้นด้ายจากฝ้ายที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน จึงทำให้ต้นทุนของผ้า cotton 100 % (เกรดดี ทอด้วยด้ายเส้นเล็ก) สูงกว่า และจุดเด่นของผ้าเนื้อผสมคือเรื่องการควบคุมการยืด(หด)ย้วยจะทำได้ดีกว่า cotton 100 % แต่ข้อเสียที่ติดมาจากใยสังเคราะห์คือจะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า cotton 100 % (ถึงแม้จะทอให้เส้นใยมีรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศแล้วก็ตาม) แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้า TC คือเบอร์ 20 และ 32 และ 40 เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าประเภทนี้ ราคาอยู่ในระดับปานกลาง โดยขึ้นกับเบอร์ผ้า และ % การผสมกันระหว่างเส้นใย Cotton 100% และเส้นใยสังเคราะห์ เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า TC ระหว่าง Polyester และ Cotton จะอยู่ที่อัตราส่วน 65% ต่อ 35% และสำหรับเนื้อผ้าผสม CVC จะอยู่ที่ Cotton 70-85% ต่อ Polyester 15-30% ส่วน CTC จะใช้ cotton 70% และเส้นใยสังเคราะห์ 30%
ประเภทที่ 3 เนื้อผ้าใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ (ใช้ตัวย่อว่า TK) วัตถุดิบที่นำมาทำผ้าเ้ส้นใยสังเคราะห์ได้มาจากปิโตรเคมี เสื้อยืดที่ทำจากเนื้อผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด ข้อดีคือมีความคงสภาพอยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วย เนื้อผ้าจะมีความมัน แต่ข้อเสียคือเนื้อผ้าจะระบายอากาศได้น้อยมาก ถ้าใส่อยู่ในที่แดดร้อน ๆ หรืออากาศอบอ้าว จะรู้สึกไม่สบายตัว โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกง่ายจะยิ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากเนื้อผ้าดูดซับเหงื่อได้น้อย และเมื่อใส่ไปนาน ๆ (ซักบ่อย ๆ ) เสื้อผ้าจะขึ้นขุย
รู้อย่างนี้แล้วการเลือกซื้อเสื้อยืดสกรีนลายเก๋ ๆ ในครั้งต่อไปก็อย่าลืมพิจารณาเนื้อผ้าเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจด้วยนะครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.t-shirtthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2-cotton.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น